Foreign Worker Employment Agency Central Unity Group Service Co.,Ltd.

PERSONAL DATA PROTECTION POLICY OF CENTRAL UNITY GROUP SERVICE

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุลคล(PDPA)

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(PERSONAL DATA PROTECTION POLICY) บริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศเซ็นทรัลยูนิตี้กรุ๊ปเซอร์วิสจำกัด

1.บทนำ
บริษัทรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในขบวนการสรรหาแรงงาน ตามคำสั่งของนายจ้าง และผู้มีส่วนได้เสียอันได้แก่เอเจนซี่ประเทศต้นทาง รวมถึงบุคคลอื่น ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า บุคคลที่เกี่ยวข้อง ในกระบวนการสรรหาแรงงาน ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับ ท่าน เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่า บริษัทมีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พุทธศักราช 2562(กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่ท่านถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้หรือเผยแพร่ ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศเซ็นทรัลยูนิตี้กรุ๊ปเซอร์วิสจำกัด รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของบริษัท โดยมีเนื้อหา โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้  

2.ขอบเขตการบังคับใช้นโยบายช
นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับบริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศเซ็นทรัลยูนิตี้กรุ๊ปเซอร์วิสจำกัด ในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลโดยบริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศเซ็นทรัลยูนิตี้กรุ๊ปเซอร์วิสจำกัด บุคลากรพนักงาน ผู้รับบริการ นายจ้าง แรงงาน เอเจนซี่ ประเทศต้นทาง หรือ คู่สัญญาหรือบุคคลภายนอก ที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทน หรือในนาม ของบริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ เซ็นทรัลยูนิตี้กรุ๊ปเซอร์วิสจำกัด ภายใต้ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆเช่นเว็บไซต์ระบบแอปพลิเคชันเอกสารหรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดยบริษัท โดยจะเรียกรวมว่าท่าน

นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้วบริษัทอาจกำหนดให้มีการประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับการดำเนินงานต่างต่างหรือบริการของบริษัทเพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผลวัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในการดำเนินดำเนินการต่างๆหรือบริการนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจงทั้งนี้ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายนี้ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริการนั้น

3.คำนิยาม
– ข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้ สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมแต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
– ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวหมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ข้อมูลเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ความคิดเห็นทางการเมืองความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญาพฤติกรรมทางเพศประวัติอาชญากรรมข้อมูลสุขภาพความพิการข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรมข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
– การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงการดำเนินการใดๆกับข้อมูลส่วนบุคคลเช่นเก็บรวบรวมบันทึกสำเนาจัดระเบียบเก็บรักษาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใช้กู้คืนเปิดเผยส่งต่อเผยแพร่โอนรวบรวม ใช้ ทำลายเป็นต้น
– เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงบุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศเซ็นทรัลยูนิตี้กรุ๊ปเซอร์วิสจำกัดเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผย
– ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
– ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทั้งนี้บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

4.แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศเซ็นทรัลยูนิตี้กรุ๊ปเซอร์วิสจำกัดเก็บรวบรวม
        บริษัท เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆจากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศเซ็นทรัลยูนิตี้กรุ๊ปเซอร์วิสจำกัดเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง โดยมีวัตถุประสงค์ขอบเขตและวิธีการที่ชอบ ด้วยกฎหมายและเป็นธรรมซึ่งบริษัทจะดำเนินการอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ หรือ เท่าเท่าที่จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการสรรหาแรงงาน โดยการควบคุม ดูแล โดยบริษัท หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับบริษัท ณที่ทำการของบริษัทหรือผ่านช่องทางการติดต่ออื่น ที่ควบคุมดูแลโดยบริษัทเป็นต้น
  2. ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นๆของบริษัทตามสัญญาหรือตามพันธกิจ ของบริษัท เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์หรือบริการโดยการใช้คุกกี้หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นต้น
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลให้แก่บริษัทเช่นการเชื่อมโยงบริการ ดิจิทัลของหน่วยงาน ของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์ ในการดำเนินการ แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่น ในฐานะที่บริษัทมีหน้าที่ในการดำเนินการ ให้ขั้นตอน กระบวนการต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ ในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงจากความจำเป็นต้องเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญา ได้


นอกจากนี้ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกบริษัทดังนี้ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของผลิตภัณฑ์หรือบริการตามแต่กรณีให้บุคคลดังกล่าวทราบตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้น หากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท

ทั้งนี้ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของบริษัทอาจเป็นผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

5.การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล        
        โดยบริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้

  1. เพื่อปฏิบัติตามสัญญากรณีการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัท
  2. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือสุขภาพ
  3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
  4. เพื่อผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทกรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบในการดำเนินการของบริษัทโดยบริษัทจะพิจารณาถึงสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญเช่นเพื่อป้องกันการฉ้อโกงการรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่ายการปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลเป็นต้น
  5. เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาวิจัย ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
  6. เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐกรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่บริษัทได้รับมอบหมาย


ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญาหากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่ท่านขอร้องได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

6.ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
        ในการเก็บรวบรวมและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน ของบริษัทอันประกอบด้วย

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

รายละเอียดและตัวอย่าง

ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล

ข้อมูลระบุชื่อเรียกของท่านหรือข้อมูลจากที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่านเช่น ชื่อ-นามสกุล,อายุวั,นเกิด,เพศ,เลขประจำตัวบัตรประชาชน ,เลขที่หนังสือเดินทาง ,หมายเลขใบอนุญาตทำงาน ,สถานภาพการเกณฑ์ทหาร ลายมือชื่อสำเนาบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านสำเนา หนังสือเดินทาง สำเนาบัตรใบอนุญาตทำงาน ประวัติการทำงานหมายเลขที่สามารถระบุตัวตนได้เป็นต้น

ข้อมูลสำหรับการติดต่อ

ข้อมูลสำหรับการติดต่อ ข้อมูลสำหรับการติดต่อเช่นที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์อีเมลชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์เป็นต้น

ข้อมูลเอกสารทางราชการ

ข้อมูลเอกสารทางราชการของท่าน เช่นสำเนาบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านสำเนาหนังสือเดินทางสำเนา ใบอนุญาตทำงาน หนังสือรับรองบริษัท หนังสือเกี่ยวข้องกับการอนุญาต เปลี่ยนอันเกี่ยวเนื่องกับกิจการของนายจ้าง หรือบริษัทจัดหางานประเทศต้นทาง

ข้อมูลทางการเงิน

ข้อมูลทางการเงินของท่านเช่นข้อมูลบัญชีธนาคารสำเนาสมุดบัญชีข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิตสถานะการกู้ยืมเงินของกองทุน สถานะการนำส่งเงินประกันตน เป็นต้น

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3

ข้อมูลบุคคลที่ 3 เช่น ข้อมูลผู้ให้เช่า สถานที่ทำงาน ข้อมูลผู้ยินยอมให้ใช้สถานที่ทำงาน ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่างๆ ข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉิน ข้อมูลบุคคลอ้างอิงเป็นต้น

ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมของบริษัทหรือระบบอัตโนมัติ จากอุปกรณ์ต่างๆของบริษัท

ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมของบริษัทหรือระบบอัตโนมัติจากอุปกรณ์ต่างๆของบริษัทเช่นหมายเลขไอพีแอดเดรส คุกกี้พฤติกรรมการใช้บริการประวัติการใช้บริการภาพถ่ายเป็นต้น

7.คุกกี้  
        บริษัทเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท ทั้งนี้เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของบริษัทและเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของบริษัทและข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บไซต์ บราวเซอร์ของท่าน

8.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของการดำเนินการหรือบริการ หรือผลิตภัณฑ์ใดๆของบริษัทที่ท่านใช้บริการตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัทหรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญโดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเป็นการทั่วไปโดยทั้งนี้เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการหรือบริการที่ท่านใช้งาน หรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้น ที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของท่าน
        ในกระบวนการสรรหาแรงงาน มีวัตถุประสงค์ ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

การขออนุญาตเข้ามาทำงาน ให้แก่แรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศไทย กับกระทรวงแรงงานกรมการจัดหางาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  1. การขอการขออนุญาตทำงาน ในประเทศไทยของแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศไทย กองการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  2. การ ขอใบอนุญาตต่างๆกับหน่วยงานราชการของประเทศไทย ให้แก่แรงงานต่างด้าว ตามประกาศ ในพระราชกำหนดการทำงานของแรงงานต่างด้าว
  3. การขอมี บัญชีธนาคาร เพื่อการรับจ่ายเงิน ของแรงงานต่างด้าวตามระเบียบของนายจ้างและรัฐบาล ของแรงงาน
  4. การแจ้งต่อสำนักงานประกันสังคม เพื่อหลักประกัน สุขภาพ ในการทำงานของแรงงานต่างด้าว ตามระเบียบ ว่าด้วยแรงงาน ที่ทำงานกับนายจ้างในประเทศไทย
  5. การตรวจสุขภาพ เพื่อขอใบรับรองแพทย์
  6. การประกันการเดินทาง หรือการประกัน อื่นใดที่เกี่ยวข้องในกระบวนการ สรรหาแรงงาน
  7. การเข้ารับการอบรม ณ ศูนย์แรกรับและสิ้นสุดการจ้าง ทั้งก่อนเข้ามาทำงานในประเทศไทย และสิ้นสุดการทำงานในประเทศไทย
  8. ใช้ในการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมายข้อบังคับหรือหน้าที่ตามกฎหมายของประเทศไทย รวมถึงการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียน การดำเนินงานทางวินัย หรือที่เกี่ยวกับข้อพิพาทหรือคดีความ
  9. วัตถุประสงค์อื่นๆที่ได้รับความยินยอม ชัดแจ้งจากท่าน

9.การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทจะไม่เปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอกเว้นแต่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งกับท่านหรือเป็นไป ตามกรณีดังต่อไปนี้

  1. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการหรือหน่วยงานราชการเพื่อจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
  2. บริษัทอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ หน่วยงานอื่น หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสรรหาแรงงานภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น
  3. กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูลหรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย

10.การถ่ายโอนหรือส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศ    
        บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศโดยจะทำให้แน่ใจว่าปลายทางหรือหน่วยงานปลายทางมีมาตรฐานและนโยบายในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอ

11.ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล        
        บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้นตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งนี้เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้วบริษัทจะทำการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ 3 ารถระบุตัวตนได้ต่อไปตามรูปแบบและมาตรฐานการรบทำลายข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดีในกรณีที่มีข้อพิพาทการใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

12.บริษัทจะใช้มาตรการทางเทคนิคและการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีการเข้ารหัสสำหรับการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะผู้เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของข้อมูลที่จัดเก็บในรูปแบบเอกสารและอิเล็กทรอนิกส์

13.การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก        
        บริษัทอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่ 3 ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้บริษัทขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งานทั้งนี้บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่ 3 ารถรับผิดชอบต่อเนื้อหานโยบายความเสียหายหรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่ 3

14.เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล            
        บริษัทได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบกำกับ และให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้สอดคล้อง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562

15.ศิษย์ของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
        ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
  2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
  3. สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่ 3 ารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
  4. สิทธิในการขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่ 3 ารถระบุตัวบุคคลได้เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
  5. สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
  6. สิทธิในการถอนความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้
  7. สิทธิในการขอคัดค้านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลเมื่อใดก็ได้

16.โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
        การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษ ตามนโยบายของบริษัทสำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทหรือตามข้อตกลง การประมูล พลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ตามแต่กรณี และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลรวมทั้ง กฎหมายลำดับรองกฎระเบียบคำสั่งที่เกี่ยวข้อง

17.การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล        
        ในกรณีที่ท่านพบว่าบริษัทมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามกฎหมายทั้งนี้ก่อนการร้องเรียนดังกล่าวบริษัทขอให้ท่านโปรดติดต่อมายังบริษัทเพื่อให้บริษัทมีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆรวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก

18.การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล    
        บริษัทอาจพิจารณาปรับปรุงแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามเห็นสมควรและจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่อย่างไรก็ดีบริษัทขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ ผ่านช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการโดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท
        การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทภายหลังการบังคับใช้นโยบายไม่ถือเป็นการรับทราบข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้โปรดหยุดการเข้าใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายังบริษัทเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง คนต่อไป

18.การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล    
        บริษัทอาจพิจารณาปรับปรุงแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามเห็นสมควรและจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่อย่างไรก็ดีบริษัทขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ ผ่านช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการโดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท
        การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทภายหลังการบังคับใช้นโยบายไม่ถือเป็นการรับทราบข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้โปรดหยุดการเข้าใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายังบริษัทเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง คนต่อไป

20.การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
        หากท่านมีข้อสงสัยข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทหรือเกี่ยวกับนโยบายนี้หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

  1. เจ้าหน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล(Data Protection Officer: DPO) ชื่อ นายดนุเมธ วรปัญญา โทรศัพท์ 081-290-7766 Email danumate@mou.co.th
  2. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) บริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเซนทรัลยูนิตี้ กรุ๊ป เซอร์วิส จำกัด เลขที่ ลขที่ 1017 ซอย 5 หมู่บ้านชมฟ้า วรางกูร คลอง2 ซอยรังสิต-นครนายก64ถนนรังสิต-นครนายก คลอง2 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12130 โทรศัพท์ 02-044-7878 Email md@centralunity.co.th

19.การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
        หากท่านมีข้อสงสัยข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทหรือเกี่ยวกับนโยบายนี้หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

  1. เจ้าหน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล(Data Protection Officer: DPO) ชื่อ นายดนุเมธ วรปัญญา โทรศัพท์ 081-290-7766 Email danumate@mou.co.th
  2. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) บริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเซนทรัลยูนิตี้ กรุ๊ป เซอร์วิส จำกัด เลขที่ ลขที่ 1017 ซอย 5 หมู่บ้านชมฟ้า วรางกูร คลอง2 ซอยรังสิต-นครนายก64ถนนรังสิต-นครนายก คลอง2 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12130 โทรศัพท์ 02-044-7878 Email md@centralunity.co.th